ทรายหยาบคือ ทรายที่ใช้ในการผสมทำคอนกรีต จะต้องสะอาด ปราศจากดินและสารอินทรีย์ต่างๆ อีกทั้งยังจะต้องไม่มีเกลือในทรายด้วย จึงเป็นเหตุผลว่า ทรายทะเล ไม่ควรเอามาใช้ผสมทำคอนกรีต ทรายหยาบ จะต้องมีความหยาบที่เพียงพอ เป็นต้องมีเหลี่ยมคม ไม่กลมมน การใช้ประโยชน์ของทรายหยาบมีหลายลักษณะ ในแง่งานโครงสร้าง นำมาเป็นส่วนผสมทำคอนกรีตในการเท พื้น เสา คาน ผนังสำเร็จรูป ในการปรับพื้นที่ที่ต้องการการระบายน้ำที่ดี งานปรับระดับใต้ฐานรากอาคาร ในงานสถาปัตยกรรม ใช้ในการก่อผนังอิฐมอญ ผนังอิฐบล็อกต่างๆ ในงานจัดสวน การปลูกต้นไม้ที่ต้องการให้ดินโปร่งช่วยการระบายน้ำและเสริมธาตุอาหารกับดินให้ดินร่วนซุย การปูพื้นทางเดินในสวน หรือทางปูพื้นทางเท้ามาตรฐานสูงๆ

หินหนึ่งคือ หินปูนขนาด ¾” ถึง 1” มีสีเทาออกขาว ไปจนเกือบดำ หินที่ใช้ในวงการก่อสร้าง ใช้เป็นส่วนผสมในการทำคอนกรีต โดยผสม ทรายหยาบ หินหนึ่ง ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ น้ำ ตามสัดส่วน โดยหินหนึ่งจะต้องมีเหลื่ยมคม ไม่กลมมน มีขนาดที่คละเพื่อให้คอนกรีตมีช่องว่างน้อย มีความแข็งแรงไม่ผุ และแตกหักง่าย ในงานจัดสวน ใช้โรยปูเป็นทางเดิน ถนน ช่วยในการระบายน้ำที่ดีกว่าทรายหยาบ

ทรายละเอียดคือ ทรายที่เอาไว้เป็นส่วนผสมของปูน เพื่อใช้ในการฉาบผนัง จะได้ผิวที่เรียบเนียน แต่ถ้าต้องการให้เรียบเนียนขึ้นจะต้องทำskin coat อีกครั้ง ทรายละเอียด จะไม่นำมาก่อผนัง(เอาอิฐมาก่อนเรียงต่อกันเป็นผนัง) ต้องใช้ทรายหยาบในการก่อผนัง ทรายละเอียด จะเป็นทรายที่แพงที่สุด เนื่องจากการใช้งานที่น้อยกว่า บางครั้ง ทรายละเอียด นำมาใช้เป็นทรายแมว(ให้แมวอึ) หรือนำไปให้เด็กๆเล่น ปราสาททราย แต่จะดีสู้ทรายแก้ว(ทรายทะเล) ไม่ได้ แต่ราคาก็ถูกกว่า

หินเกล็ดคือ หินปูนขนาด3/8” ไปจนถึง ¾” มีสีเทาออกขาว ไปจนเกือบดำ ในวงการก่อสร้าง ใช้เป็นส่วนผสมในการทำคอนกรีต เพื่อ เททับหลังเสาเอ็น คานเอ็น หรือเทเคอนกรีตปรับระดับพื้นที่มีความหนา (ปกติปรับระดับพื้นด้วยคอนกรีต จะใช้ทรายหยาบกับซีเมนต์ผสมกันเรียกว่ามอร์ต้า แต่ถ้าต้องการปรับพื้นที่ต้องการให้หนาไม่เกิน 4 เซนติเมตร ควรจะผสมหินเกล็ดเข้าไปในมอร์ต้าด้วย เพื่อความแข็งแรง)